วิธีดูแลสีรถ 3 ขั้นตอน ง่ายๆ ที่จะทำให้สีรถดูสวยสดงดงาม

วิธีดูแลสีรถ

เนื่องจากสภาพปัจจุบัน ทั้งแสงแดดและมลภาวะ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลต่อสีรถคู่ใจ ทำให้ท่านเจ้าของรถ ต้องหันมาดูแลรักษาสีรถยนต์ของตัวเองมากขึ้น การดูแลสีรถไม่ได้หมายความแค่การล้างทำความสะอาด ลงแว็กซ์ หรือเคลือบเงา มันมีความละเอียดอ่อนและมี กรรมวิธีมากกว่านั้น เมื่อรับรถมาแล้วส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเรื่องของการเคลือบสีตัวรถ บ้างก็ได้แพ็คเกจแถมมาในเรื่องของการขัดเคลือบสี ซึ่งมี วิธีดูแลสีรถ หลัก 3 ขั้นตอน ดังนี้

  1. ทำความสะอาดรถอย่างถูกวิธี : การดูแลสีรถเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดรถอย่างเหมาะสม เริ่มจากการล้างรถให้สะอาดโดยใช้น้ำและสบู่ล้างรถ แนะนำให้ใช้เครื่องพ่นน้ำแรงดันสูงหรือแปรงล้างรถเพื่อเอาสิ่งสกปรกและสารสกัดออกจากพื้นผิวรถ. หลังจากนั้น, ใช้เครื่องดูดฝุ่นและผ้าไมโครไฟเบอร์เพื่อล้างรถให้สะอาดถึงขั้นตอนสุดท้าย. ควรทำความสะอาดรถอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่เข้าไปยับยั้งสีรถ.

  2. เคลือบเงา (แว็กซ์) : หลังจากที่รถถูกล้างให้สะอาดอย่างถูกวิธีแล้ว, คุณสามารถใช้ แว็กซ์สีรถเพื่อช่วยให้สีรถสดใสและเงางาม. การเคลือบสี จะช่วยป้องกันการตกคลอนของสี และควรทำเป็นประจำเพื่อความรักษาสีให้ดี เพื่อเพิ่มความเงาและความลื่นให้กับพื้นผิวรถ นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลสีรถให้สวยงาม

  3. ป้องกันแสงแดดและสิ่งสกปรกอื่นๆ : แสงแดดและสิ่งสกปรกอื่นๆ เช่น น้ำฝน ฝุ่น และสารเคมีจากถนนสามารถทำให้สีรถกระเทาะ และเสื่อมลงได้ ใช้ผ้าคลุมรถ หรือ จอดรถในที่ร่ม เพื่อป้องกันสีจากการเสื่อมลงด้วยการสร้างการกันแสงแดด อย่าลืมให้ความสำคัญกับการครอบคลุมรถในสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่อาจทำให้สีรถเสื่อมลง

และยังมี วิธีดูแลสีรถ ให้ดูฉ่ำและเงางาม สำหรับคนรักรถ

ขัดเคลือบสี (Polishing & Coating)
ขัดเคลือบสี

บ่อยครั้งเราได้ยินคำว่า “ขัดสี” และ “เคลือบสี” และมักคิดว่าเป็นขั้นตอนเดียวกัน แต่จริงๆ แล้ว นั้นเป็นสองขั้นตอนที่แตกต่างกัน คือ “ขัดสี” และ “เคลือบสี” โดยเฉพาะเมื่อรถใช้งานนาน ๆ รอยขนแมวสามารถเกิดขึ้นได้จากการล้างและเช็ดด้วยผ้าที่ไม่สะอาด หรือความสกปรกเกิดจากฝุ่นรถบนพื้นผิวสีเข้ม เช่น สีดำ หรือสีสด ๆ รอยขนแมวจะเด่นชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากคราบยางไม้หรือขี้แมลง ซึ่งทำให้การเช็ดล้างกลายเป็นสิ่งที่ทำให้รอยขนแมวเกิดขึ้น ดังนั้นการ “ขัดสี” จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการล้างและเรียบเนียนพื้นผิวสีรถ โดยการขัดสีคือการลบผิวหน้าของสีหรือแล็กเกอร์ออกไป

เมื่อการขัดสีเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงเป็นเวลาของขั้นตอน “เคลือบสี” ซึ่งจะช่วยให้ผิวที่ถูกขัดเนียนมีความเงางามมากยิ่งขึ้น และเป็นตัวเคลือบที่คอยปกป้องชั้นสีที่ถูกขัดออกไปให้มีความแข็งแรงและทนทาน ลดการเกิดรอยขีดข่วนมากขึ้น ดังนั้นไม่ควรขัดสีบ่อยในกรณีของรถที่ใช้งานมาหลายปี

เมื่อการขัดและเคลือบสีเสร็จสมบูรณ์ ควรรักษาระยะเวลาการเคลือบสีตามที่ผู้ผลิตน้ำยาเคลือบระบุ เพื่อให้ผิวที่ถูกขัดเนียนมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและยังคงความงามไว้ในระยะยาว”

การเคลือบแก้ว (Glass Coating)

ปัจจุบัน, เทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับคนที่รักความงามคือการเคลือบแก้ว โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้สีมีความเงางามและดูฉ่ำขึ้นอย่างมาก สำหรับสีดำเป็นตัวอย่างที่มีคำขลับเงางาม ส่วนสีน้ำเงินจะดูสดใสมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญอีกอย่างคือการเคลือบนี้ช่วยลดเวลาในการดูแลรักษาและทนต่อรอยการขีดข่วนและคราบต่าง ๆ เช่น คราบยางไม้, คราบขี้แมลง, หรือคราบสกปรกอื่น ๆ การเกาะติดยากและการทำความสะอาดก็ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม, ควรระมัดระวังว่าราคาของเทคโนโลยีนี้มีแนวโน้มที่จะสูง โดยพิจารณาจากขนาดของรถ เช่น รถขนาดอีโค คาร์ หรือซับคอมแพ็คท์

ถ้าคุณชอบความงามและความง่ายในการดูแลรักษา การเคลือบแก้วเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและควรที่จะพิจารณาเริ่มใช้เมื่อคุณออกจากโชว์รูม

ขั้นตอนในการเคลือบแก้วนั้นเริ่มต้นด้วยการใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติพิเศษหลาย ๆ ด้านผสมเข้าด้วยกัน เช่น การยืดเกาะกับผิวสีเดิมอย่างแน่นหนา และคุณสมบัติความแข็งแบบผิวกระจกนั้นจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ยากขึ้น

นอกจากความงามแล้วยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ความลื่นของผิวสัมผัสที่ทำให้ฝุ่นหรือคราบต่าง ๆ เกาะติดยาก ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

แต่ถ้าหากคุณไม่มีเวลาว่าง ก็ลองมาใช้ บริการ AREA 50 detailing & Service ช่วยดูแล

AREA 50 detailing & Service เราร้านล้างรถเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ล้างอัดฉีดรถ หรือเป็นการล้างแบบ Detailing โดยเรามุ่งมั่นที่จะดูแลรถของคุณให้ใหม่เหมือนรถใหม่ที่ออกจากโรงงาน ลองใช้บริการเราเพื่อความสวยงามและความสะอาดของรถของคุณได้เลย

เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม :

  • 085-109-1812 (คุณ นัท)
  • 094-551-7895 (คุณ นิว)

เปิดให้บริการ 10:0000:00 น.

สอบถามข้อมูลผ่านไลน์ ได้ที่ : @area50

หรือ เพจเฟสบุ๊ค AREA50 DETAILING